สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกคน วันนี้เราจะมาเล่าถึงเรื่องของครั้งแรกกับการถ่ายภาพกีฬาทางน้ำ เชื่อว่าหลายๆท่านผู้อ่านก็คงคุ้นเคยกับการถ่ายภาพกีฬากันอยู่บ้างนะคะ กีฬาทางน้ำก็จะมีเทคนิคและวิธีการที่คล้ายๆกับการถ่ายภาพกีฬาทั่วไป เพียงแต่ว่าเราจะสามารถหามุมมองใหม่ๆ ได้อย่างไรต้องติดตามค่ะ 

          เนื่องในโอกาสที่ทางบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาทางน้ำ คือ “SINGHA F1 POWERBOAT ROADSHOW” Singha​ Water Sports​ ครั้งที่3​ สนามบางเสร่​ วันที่​ 15-16​ กันยายน​ 2561 ที่ผ่านมา และบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อป ในการแข่งขันการภาพถ่ายบรรยากาศของงาน วันนี้เราจึงได้มีโอกาสนำภาพบรรยากาศและเทคนิคดีๆมาฝากกันค่ะ

          ในช่วงเช้าก็จะเป็นกิจกรรมของการบรรยายและสอนเทคนิคการถ่ายภาพกีฬาทางน้ำจากทางบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โดยมีผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพด้านกีฬา มาบรรยายเทคนิคและวิธีการต่างๆ กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม และได้สนับสนุนในการให้ยืมอุปกรณ์ต่างๆในการถ่ายภาพ

 

           การเก็บภาพบรรยากาศก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ของงานนะคะ เปรียบเสมือนกันเป็นการเล่าเรื่องราวของภาพ ว่าในภาพนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งภาพตัวอย่างก็เป็นสีสันของงาน“SINGHA F1 POWERBOAT ROADSHOW”

          งานนี้ก็ได้ความร่วมมือจากหลายๆ หน่วยงาน และสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนหลายๆ ฝ่าย ที่ได้ช่วยสร้างให้บางเสร่แห่งนี้มีสีสัน ความครึกครื้น เสียงกองเชียร์ดังสนั่น พ่อแม่ ญาติพี่น้องทั้งหลาย ก็ต่างพากันมาเชียร์ติดขอบสนาม ให้กำลังใจแก่ผู้แข่งขัน เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มีความสุขและลุ้นระทึกกันมากเลยทีเดียว

 

          ความพร้อม คือ สิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคนค่ะ นักแข่งเรือเองก็ต้องมีการฝึกซ้อมก็การแข่งขันจริง เตรียมร่างกายและสมาธิให้พร้อม เพราะแม้ว่ากีฬานี้จะเป็นกีฬาทางน้ำก็จริงแต่ถ้ามีการผิดพลาดทางเทคนิคก็อาจถึงชีวิตได้เช่นกันค่ะ ส่วนช่างภาพเองก็ต้องเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ การหามุมดีๆ ตามขอบสนาม และเทคนิคการถ่ายภาพของแต่ละบุคคลที่มีไม่เหมือนกัน

 

          มุมในการถ่ายภาพ กล่าวคือหากเราถ่ายภาพจากมุมสูง ดังรูปตัวอย่างที่ 1 เราก็จะได้ทั้งฉากหน้าและฉากหลัง โดยมีเรือ F1 คั่นระหว่างอยู่ ทำให้ภาพนั้นดูมีเรื่องราว ในส่วนรูปตัวอย่างที่ 2 คือมุมต่ำ ที่ใช้เทคนิคการถ่ายภาพระนาบกับพื้น ให้ดูเหมือนเรานั้นอยู่ใกล้กับวัตถุในภาพ และจับจังหวะที่ดีที่สุดของภาพนั้นออกมาก

 

          การใช้ความเร็วชัตเตอร์ ก็มีผลต่อภาพที่เราถ่ายนะคะ ถ้าเราใช้สปีดชัตเตอร์เร็ว 1/1000 วินาที ก็จะได้ภาพที่ดูนิ่งนุ่มนวล อบอุ่น และแสงธรรมชาติที่สวยงามดังภาพที่ 1 แต่ถ้าหากเราใช้สปีดชัตเตอร์ช้า 60 วินาที ภาพก็จะดูมีการเคลื่อนไหวแต่ต้องใช้เทคนิคการแพลนกล้อง ก็จะคล้ายๆกับการถ่ายรถแข่งนั่นเองค่ะ

 

          และแล้ววันนี้ก็ขอจบการเล่าเรื่องแต่เพียงเท่านี้นะคะ ก็อยากจะฝากผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทุกคนไว้ว่า การถ่ายงานกีฬานั้นหากเราได้หยุดช่วงวินาทีสำคัญล่ะก็จะช่วยให้ภาพนั้นมีเสน่ห์ไม่น้อยเลย ดังนั้นขอให้ทุกคนตั้งใจและถ่ายทอดอารมณ์ของภาพให้ดีที่สุด