เป็นทริปแรกในชีวิต2ล้อ ที่ออกเดินทางไกลที่สุดไปทางภาคอีสาน

จุดหมาย คือ จังหวัดกาฬสินธุ์-สกลนคร

 

ด้วยระยะทางไปกลับกว่า 1600 กม. เวลา3วัน2คืน 

เราจะไปตามรอยโครงการพระราชดำริ 3 ที่ คือ

1.อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังค์ภูมิพัฒน์

2.อ่างเก็บน้ำห้วยหวด อุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร

3.ศูนย์ศึกษาภูพาน จ.สกลนคร

 

เป็นโครงการพระราชดำริ ที่เกี่ยวกับน้ำ.....

 

วางแผนทริปนี้ว่า เราจะกางเต็นท์นอนทั้ง2คืน เป็นการเที่ยวแบบประหยัดและพอเพียง

วันแรกจะขับรถยาวไปที่อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังค์ภูมิพัฒน์ ที่ จ.กาฬสินธุ์ก่อน 

แล้วไปกางเต็นท์นอนที่ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยหวดทั้ง2คืน ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล

มีที่ค้างแรมปลอดภัย สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว

 

การรีวิวทริปนี้ จะแบ่งปันข้อมูลโครงการพระราชดำริ และเทคนิคถ่ายภาพไปพร้อมกันค่ะ

 

ได้เจอความประทับใจมากมาย โดยเฉพาะความสวยงามของธรรมชาติในโครงการ รอบๆโครงการ

ทำให้ทริปนี้ได้ภาพสวยที่เกินคาดหวังมาก

เปิดตัวทริปนี้ด้วย 3 ภาพประทับใจก่อน  ทุกภาพถ่ายในโครงการพระราชดำริทั้งหมดค่ะ

#ตามรอยโครงการพระราชดำริ

#เที่ยวแบบพอเพียง

#Redefine2

#Canon77D

#อักขรานุกรมไทย

 

 

 

..................................................

 

เวลาตี 3.00 ออกเดินทาง

 

ทริปนี้เตรียมกล้อง canon77d กับเลนส 3ตัว

-canon fish eye 10-15 f 3.5

-canon 85 f1.8

-canon 24mm f2.8

เราจะพกเลนสมาแค่นี้  น้อย และ เบา ตามคอนเสปต์ Less in more

 

ระหว่างทาง ท้องฟ้าเริ่มสว่างเป็นสีน้ำเงิน

เราก็หยุดถ่ายภาพสักภาพด้วยเลนสฟิชอาย

ชอบถ่ายแสงเวลานี้  เพราะยังมีแสงถนนสวยๆ และสีท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงิน

ตัดกับสีรถ สีเหลือง

 

แผนที่การเดินทาง กดตาม google map แล้วลุยยย

 

เดินทางหน้าร้อน  ยิ่งขับมอไซค์ด้วยนะ  

เจออุปสรรคทางร่างกายแล้วสิ

คือ ร้อน  พอร้อนร่างกายมันล้า บวกกับอดนอน อาการหลับในมาเลย

แวะพักตามปั๊ม นอนตามศาลาริมถนน

ช่วงขับบนถนนเจอแดดร้อนจัดๆ  มีเทคนิคส่วนตัวคือ ใช้น้ำราดตัวเอง

พอขับฝ่าแดด ลมไหลเข้ามา กลายเป็นลมเย็นๆ สบายย

ภาพนี้ เซลฟี่ตัวเอง โดย setกล้อง เล่นกับspeed shutter 1/4000

ตั้งค่า Continuous หรือถ่ายภาพต่อเนื่องที่กล้อง

แล้วกดถ่ายค้างไว้  รัวๆๆๆๆๆ

 

ใกล้ถึงแล้ว แวะถ่ายภาพวิวก่อน  ตอนนี้อยู่ อ.เขาวง

แต่ทางไปอุโมงค์ลำพะยังฯ ถนนแย่มาก ป้ายบอกทางก็ไม่มี

กูเกิลแมบก็พาหลงทาง  ปิดแอ๊บ พึ่งถาถามชาวบ้านแถวนั้นแทน

น่าจะมีการทำถนนลาดยางดีๆ และป้ายบอกทางหน่อย

เป็นโครงการที่น่าพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

 

ใกล้แถวนี้ จะมีถนนหนึ่ง ชื่อ"ถนนดิสโก้" 

 

ถึงหน้าอุโมงค์แล้ว   แต่ปิด  ต้องโทรให้ จนท.ช่วยเปิดให้

เบอร์นี้ค่ะ

086-218-3322

 

ดูป้ายชัดๆ  ถึงเวลาบ่าย3กว่าๆ

 

เข้ามาชมในอุโมงค์กันค่ะ

 

ที่นี่เป็นอุโมงค์ผันน้ำแห่งแรก แห่งเดียวในประเทศไทย ที่เกิดจากพระราชดำริในหลวงรัชกาล9

ให้ผันน้ำจากเขื่อนห้วยไผ่ จ.มุกดาหาร มา เขื่อนลำพะยัง จ.กาฬสินธุ์

โดยไม่ใช้พลังงานไฟฟ้าเลย  น้ำจะไหลเพราะแรงดันจากที่สูง ลงสู่ที่ต่ำ

สร้างโดยเจาะภูเขาเข้าไป ใช้เวลาสร้างถึง3ปี ปี 2546-2549

ภายในนี้ สะอาดมากๆ ไม่มีขยะ  เราจะเดินเข้าไปเจอทางราบก่อน แล้วจะเจอทางชันขึ้นเรื่อยๆ

ระยะทาง 710 ม. 

และอากาศเย็นเจี๊ยบบบ เหมือนเปิดแอร์

 

ด้านในเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงมาก  

เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เมตร

นักท่องเที่ยว เดินฝั่งซ้ายได้ด้านเดียวเท่านั้น

ภายในมีพัดลมช่วยให้อากาศไหลเวียน

ใช้เลนสฟิชอายถ่าย เก็บทั้งอุโมงค์ได้ครบ

ควรพกขาตั้งกล้องมาด้วยนะคะ ภายในนี้มืด ถ่ายรูปสั่นเบลอได้

หรือถ้าไม่พกขาตั้งกล้องมา ใช้เทคนิคดัน isoกล้องสูงๆไว้ สัก 1600ขึ้นไป

 

 

เทียบสเกลคนกับความกว้างในอุโมงค์

 

ภายในเปิดแสงส่องสว่างให้ตลอด

เดินเรียงแถวได้ทีละคน

ผนังอุโมงค์  มีทั้งหิน ทั้งโครงสร้างเหล็ก  ให้ชม

 

 

 

บางช่วงมีน้ำเจิ่งนอนบนพื้น  ซึ่งหยดมาจากตามขอบอุโมงค์

ทำให้เราเจอสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ

 

 

นั่น คือ หินงอกหินย้อย

 

สีขาวอมเหลือง ได้เจอตลอดริมทาง สวยมากๆๆ 

มีหลายแบบทั้งเป็นแท่ง  เป็นแผ่นหินชั้นๆ มีลวดลายติดผนัง

 

แสงในถ้ำไม่พอถ่ายรูป  ใช้ไฟฉายจากไอโฟนส่องแทน และดันค่าisoในกล้องสูงๆหลัก1600 ใช้f 2.8 

 

 

มาชมผลึกหินงอกหินย้อยชัดๆ มีผลึกหลายแบบให้ดู

ถ่ายด้วยเลนส canon macro 24mm f2.8 แล้วครอปเข้าอีก 60%

ใช้แสงไฟจากโทรศัพท์ช่วยส่อง

 

ที่พิเศษที่นักท่องเที่ยวหลายคนชอบคือ

 

ในนี้เราจะได้เดินข้ามผ่านเขตแดน2จังหวัด  กาฬสินธุ์-สกลนคร

 

เดินมาสุดทาง เจอห้องควบคุม ประตูน้ำ

ถ้าขึ้นบันไดออกไป จะเจอเขื่อนอีกฝั่งของ จ.มุกดาหาร

น้ำจะเต็มเขื่อนช่วงเดือนตุลาคม แล้วไหลผันผ่านอุโมงค์มา

เพียงแค่เปิดประตูน้ำ  ไม่ต้องไฟฟ้าผันน้ำเลย

ประหยัดพลังงาน

 

ใช้เวลาชมอุโมงค์ไม่ถึง1ชม. ก็เดินครบแล้ว

 

ไม่เคยเห็นอุโมงค์แบบนี้จากที่ไหนเลย  แล้วยิ่งเป็นโครงการพระราชดำริด้วย

 

อยากสนับสนุนให้พัฒนา อนุรักษ์ที่นี่ไว้ อาจจะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่แบบโครงการพระราชดำริอื่นๆ เช่น เขื่อนขุนด่าน   เพื่อให้คนไทย  ได้มาศึกษาดูงานออกแบบโครงสร้าง และเป็นสถานที่ถ่ายรูปสวยมาก โดยเฉพาะภาพแนวArt

 

ภาพนี้ใช้เทคนิคระเบิดซูม  โดยเซตค่าspeed shutter ต่ำๆสัก1/4

แล้วขณะกำลังถ่าย ให้บิดเลนสไปพร้อมกับกดชัตเตอร์

ก็จะได้อารมณ์ภาพเคลื่อนไหวแบบนี้

 

ใกล้ๆกัน พาไปชมอ่างเก็บน้ำ ลำพะยังตอนบน

อีกโครงการพระราชดำริ

 

ที่นี่มีที่มา ที่อ่านแล้วลุ้นไปตามด้วย สมัยที่ท่านเสด็จตามหาแหล่งน้ำที่จ.กาฬสินธุ์

เจนมาเจอที่สร้างอ่างเก็บน้ำที่นี่

 

เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อถึงพลับพลาที่ประทับ เฮลิคอปเตอร์กลับบินวนอยู่เป็นเวลานาน”

 

ครั้นเมื่อลงจอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตรงไปที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มารับเสด็จ และมีรับสั่งว่า

 

“…เราพบสถานที่สร้างอ่างเก็บน้ำแล้ว เดี๋ยวเราจะไปดูกัน” จากนั้นทรงนำคณะเสด็จพระราชดำเนินไปบนถนนลูกรุงที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อจนรถแกว่งไปแกว่งมาจนถนนแห่งนั้นได้ชื่อว่า ถนนดิสโก้

 

ระหว่างทาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทอดพระเนตรเห็นข้าวของราษฎรบ้านกุดตอแก่น ที่มีรวงข้าวแต่ไม่มีเมล็ด หรือรวงหนึ่งมีสองสามเมล็ด เนื่อจากฝนแล้งทำให้ขาดน้ำ ต้นข้าวโตขึ้นได้เพราะอาศัยน้ำค้าง

 

เมื่อพระองค์ทรงเห็นสภาพความยากลำบากชองราษฏรและขาดแคลนน้ำเพราะขาดระบบชลประทาน จึงใหจัดทำโครงการก่อสร้าง “อ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน”

 

 

เราเดินทางต่อไปอีกจังหวัด คือ สกลนคร

และนี่เป็นอีกเส้นทางที่นักเดินทาง 2 ล้อ ชอบมาขับรถกินลมชมวิว ชมธรรมชาติกัน

เป็นทางขึ้นเขาจาก กาฬสินธุ์ ไป สกลนคร  มีโค้งดังๆอย่างเช่น โค้งปิ้งงู

 

 

ขณะนี้เรากำลังมุ่งหน้า ไป อุทยานแห่งชาติภูผายล  เพื่อไปชมอ่างเก็บน้ำห้วยหวด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร

 

ระหว่างขึ้นลงเขา  เจอทั้งฝน ทั้งแดด

อย่าได้ย่อท้อ  จุดหมายเราใกล้ถึงแล้ว  เหนื่อยก็พัก มีแรงก็เดินทางต่อ

 

นับจากบ้าน มาถึงที่นี่   

ระยะทาง 640 กม.

ขับรวดเดียวไม่แวะค้างคืนที่ไหน   ขับไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง

 

 

ถึงแล้วววว

 

อุทยานแห่งชาติ ภูผายล จ.สกลนคร

 

ที่นอนคืนนี้ของเรา   ข้างในมีอะไรบ้างนะ ตื่นเต้น

 

มาถึงก็เจอวิวนี้ต้อนรับริมทางเลย

ป่าไม้เขียวสดชื่นนนน

 

ภายในนี้มีอ่างเก็บน้ำห้วยหวด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ที่เราวางแผนตั้งใจมาถ่ายภาพ

มาถึงช่วงเย็น น้ำสะท้อนเป็นกระจกเลย    

ได้นั่งพัก มองผิวน้ำเงียบๆคนเดียว  สบายใจ

 

ดังพระราชดำริ

 

"หลักสำคัญว่า ต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นี่

 

.........ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้......ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้.....ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้

 

.........แต่ถ้ามีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ......คนอยู่ไม่ได้"

 

ความเป็นมา :

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสร็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรบริเวณลุ่มน้ำห้วยหวดและได้พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2524 ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหวดโดยเร่งด่วน เพื่อจัดหาน้ำส่งให้พื้นที่เพาะปลูก ของราษฎรหมู่บ้านน้อย , บ้านจันทร์เพ็ญ , บ้านบึงสาและหมู่บ้านใกล้เคียงในเขตอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร สามารถทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน-ฤดูแล้ง  และน้ำเพื่อทำการอุปโภค-บริโภค สำหรับราษฎรในบริเวณหมู่บ้านดังกล่าวได้ตลอดปี

 

 

ใกล้กันกับอ่างเก็บน้ำ  มีต้นประตู่ต้นใหญ่ 2 ต้น ที่ทรงปลูกโดยพระองค์ท่านเมื่อ ปี 2527

 

ตอนนี้เติบใหญ่ให้ร่มเงา ได้พักพิง

 

เหมือนประเทศไทยของเรา ที่มีโครงการพระราชดำริถึง4860โครงการ

 

 

ต้นประดู่ ภาคกลางคืนบ้าง

 

ใต้ต้นประดู่ มีภาพ และประวัติเมื่อครั้งทรงงาน

 

ได้นั่งใต้ร่มเงา หลบแดด สบายตัว สบายใจ

 

ถ่ายรูปใช้เลนส ระยะ85 f1.8 กึ่งย้อนแสง  

 

 

ใกล้กันมีพลับพลาทรงงานที่ประทับแบบเรียบง่ายอยู่

 

จากเมื่อก่อนที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำ  จนตอนนี้พัฒนากลายเป็นอุทยานแห่งชาติห้วยหวด แต่เปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติภูผายลแทน  เพราะทางภาคอีสาน มักใช้คำว่า ภู  นำหน้าเวลาตั้งชื่อสถานที่

 

หน้าพลับพลามีพระราชดำรัสให้อ่าน

เรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ

 

 

คืนแรกเรานอนกางเต็นท์ที่นี่  ติดกับร้านสวัสดิการด้านบน

ขอตัวไปนอนก่อนคืนนี้ ขับรถมา 600กว่าโล เพลียมากมาย

 

เช้าวันใหม่  ตื่นมาเปิดเต็นท์เจอกับวิวนี้  อากาศสะอาดมาก หายใจให้เต็มที่แล้วนอนต่อ

หยิบเลนส์ฟิชอายมาถ่าย  เก็บมุมได้กว้างครบจริงๆ

 

ในอุทยานมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ เราจะได้พบพืชพันธุ์แปลกให้ถ่ายรูป

ตอนนี้เปลี่ยนใช้เลนส canon macro 24 f2.8 ติดกล้องละ

 

มีฝายระหว่างให้แช่ขาเล่นๆด้วย  เย็นสบายย

การสร้างฝายเป็นวิธีชะลอน้ำและเติมอ๊อกซิเจนให้น้ำอีกทางหนึ่ง ที่ประหยัด ใช้การได้ดี

 

 

วิถีแห่งน้ำ

 

speed 1/4000

 

เจอน้ำตกขั้นที่ 1 น้ำตกไทรย้อย เดินมาแค่300ม.

ใช้เลนสฟิชอายแทน เซต speed 1/4 ให้ช้าไว้ เพื่อได้สายน้ำตกเป็นเส้นเบลอ

 

 

ถ่ายแนวตั้งอีกมุม

 

มาถึงนี่ต้องเล่นน้ำตกให้สบายตัว

น้ำเย็นเจี๊ยบบบ

มีความสดชื่นนน

 

set speed 1/400 เพื่อหยุดน้ำให้เป็นเม็ด

 

 

ภาพนี้ดัน iso 12500 สูงมากก

เราจะเห็นน้อยส์เกิดขึ้นในภาพ

เพราะแสงในนี้มืดมากๆ แต่เราต้องการใช้ speed1 /4000เพื่อให้ได้ภาพหยดน้ำ ที่กำลังตกลงงมา

 

 

 

มีเวลาขับรถไปเที่ยวอีกโครงการ

 

ศูนย์ศึกษาการภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

ขึ้นชื่อเรื่อง 3ดำ แห่งภูพาน  คือ  หมูดำ วัวดำ  ไก่ดำ

 

ที่นี่เลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ให้ชาวบ้านขอน้ำเชื้อไปได้

และเลี้ยงให้ดูเป็นตัวอย่าง

 

 

ขับรถกลับมาที่อ่างเก็บน้ำห้วยหวดอีกที  คืนนี้ย้ายเต็นท์มากางริมอ่าง

เพื่อรอชมดาวสวยๆ ต่อในคืนนี้  ภาวนาขอให้ท้องฟ้าเปิด

 

 

แล้วฟ้าก็เปิดจริงๆ

 

หยิบกล้องมาถ่าย

ตั้งค่า iso 1600 f 3.5 speed 30 วิ

เปิดไฟในเต็นท์อ่อนๆ

 

ได้ภาพเต็นท์กับดาวในคืนนี้แล้ว

 

 

คืนนี้มีทางช้างเผือกให้ชมด้วย บริเวณสันเขื่อน

นำรถเข้าไปจอดถ่ายได้

 

เซตค่ากล้อง iso 12500 f 3.5 speed 20 วิ

 

ทางทิศตะวันออก/ใต้ เวลา 5ทุ่ม

 

เป็นสถานที่ ที่เหมาะในการดูดาวจริงๆค่ะ

เพราะการถ่ายภาพดาว เราต้องนอนเฝ้าดู ว่าท้องฟ้าจะเปิดไหม

และต้องมืดมากๆ ไม่มีแสงไฟอะไรรบกวน

 

 

ถ่ายจากมุม ในเต็นท์ ออกไปนอกประตูเต็นท์

 

เซตค่ากล้องเดิมค่ะ  ได้ชมทางช้างเผือกแบบเต็มตา

 

 

............................................................................

 

เป็นทริปตามรอยโครงการพระราชดำริที่มีความสุข อิ่ม ได้ครบทุกอย่าง

ได้ทั้งขับรถตามเส้นทางสวยๆ มีธรรมชาติจัดเต็มริมทาง ทั้งภูเขา ที่มีไอหมอกลอยบนถนน

ได้เห็นว่าภาคอีสานไม่ได้แห้งแล้งอย่างที่คิด 

ยังมีเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่พระองค์ท่านสร้างไว้เป็นประโยชน์ให้ชาวอีสาน

ได้สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นทางภาคอีสาน

ได้ภาพสวยที่เกินคาดมากๆ

ได้เห็นธรรมชาติของเมืองไทยในอีกมุม ที่อยู่ในโครงการพระราชดำริ

รวมระยะทางไปกลับ ทั้งหมด 1600 กม.

 

 

 

ก่อนจบทริป มีภาพที่ตั้งใจ เตรียมเพื่อไปถ่ายที่นี่

 

เตรียมไฟเย็นไปด้วย   เพื่อมาถ่ายในโครงการพระราชดำริ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยหวด

 

สถานที่ที่ท่านเคยเสด็จมา และพัฒนาให้ประเทศไทย

 

ชื่อ ภาพ ฉันโชคดีที่เกิดในรัชกาลที่ ๙

 

เทคนิคถ่ายภาพ ใช้manual mode  เปิดหน้ากล้องนาน speed shutter 30 วิ f 7.1 iso 800

 

ติดกล้องกับขาตั้ง  เราเป็นคนวาดด้วยไฟเย็นเอง  

 

 

และอีกภาพ ที่ถือว่าเป็นภาพที่ถ่ายยากมาก 

 

เป็นช็อตที่บังเอิญได้ภาพ  

 

ในขณะที่กำลังเซตกล้องถ่าย timelapse 400 ภาพ บนสันเขื่อนเพื่อถ่ายทางช้างเผือก

 

บริเวณนั้น มีหิ่งห้อยบินเยอะมากหลายสิบตัว  มีตัวนึง บินผ่านหน้ากล้องไปพอดี

 

ชื่อ ภาพ  วิถีหิ่งห้อยบนทางช้างเผือก

 

เซตค่า iso 12500  speed 15 วิ f 3.5

 

 

 

มาเที่ยวถ่ายภาพตามรอยโครงการพระราชดำริ

 

ได้ทั้งภาพสวย  ได้ความรู้  ได้ความสุข

 

และได้รู้จักพระองค์ท่านมากขึ้น  ยิ่งรักและยิ่งศรัทธามากขึ้นกว่าเดิม........

 

.........................................................................

 

อ่อ แล้วก็มีงานประกวดถ่ายภาพมาฝากด้วยค่ะ

จาก Canon Life Redefine#๒ 

 

โดยถ่ายภาพเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ โครงการหลวง โครงการจิตรลดา หรือผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้เช่น นม น้ำผึ้ง สตรอเบอร์รี่ ถั่วแมคคาเดเมียฯลฯ

 

ในหมวดอักษรภาษาไทย ก-ฮ

 

โดยไม่จำกัดกล้อง หรือค่ายไหน ใช้โทรศัพท์ถ่ายก็ได้

 

ชิงรางวัลกล้องcanon77d  ซึ่งนกใช้ถ่ายภาพในกระทู้นี้แทบทุกภาพ

 

 

กติกาตามนี้ค่ะ

 

https://life.canon.co.th/redefine2/