รหัส แห่งการสร้างภาพกับกล้อง Canon EOS M5 โดย jaophoto/siam360

#canonlife #siam360

โดย siam360 2017/05/06 23:39:48

จำนวนผู้ชม: 686
  • คุณสมบัติของภาพ - Camera maker:

  • Camera model:
  • Lens:
  • Focal length:
  • Speed shutter:
  • F-stop:
  • ISO speed:

เล็กคุณภาพ ใช้เลนส์โปร เร็วตอบโจทย์ในห่วงแห่งจินตนาการ Body สำรอง ของโปร วันนี้ต้องยอมรับว่า ตระกูล มิลเลอร์เรจ มาแรงสุดๆ จนจะมาแทน body หลัก ในหลายๆ รุ่น กระแสความนิยม กล้องประเภทนี้ จุดแข็ง ก็คือ น้ำหนักเล็ก ไม่ต้องเสียคุณภาพ เวลา กับกระจกสะท้อนภาพ แบบ dslr โลกจึงเร่งพัฒนา กล้องมิลเลอร์เรจ ออกมาอย่างเร่งรีบ ไม่ถึง 3 ปี ส่วนแบ่งตลาด โตแบบใจหายใจคว่ำ Canon M 5 กล้องมิลเลอร์เรจ ออกมาในอารมณ์ และเวลา ของคนที่ชอบถ่ายภาพ มีกลิ่นไอของโปร มีความคลาสสิก ในประวิตศาสตร์ และตอบโจทย์ ของแฟชั่น ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะถามว่าcanon ออกกล้องตัวนี้มาช้าไปนิดเปล่า ก็ต้องยอมรับว่า ก็เพราะการวางกลยุทธที่ต้อง อธิบายระหว่าง คนกล้อง กับ คนรักการถ่ายภาพ และโปร ให้มีจุดนัดพบกันให้ได้ แว๊บแรกที่เห็น โฉมของ M5 ก็ต้องบอกว่า มันหล่อมาก เป็นเด็กหนุ่มที่ชาติตระกูล มีรสนิยม และมีความสมาร์ทในศิลปะ การเติมช่องมองภาพหรือกะโหลกเข้าไป ทำให้ เวลายกเจ้า M5 มาใช้งาน มันเรียกอารมณ์ การถ่ายภาพ อย่างต่อเนื่อง ช๊อตต่อช๊อต และเมนูที่จัดวาง การไล่ฟังก์ชั่น ไม่ซับซ้อน มองในจอรับภาพ ก็ไล่ รูรับแสง ชัตเตอร์ อย่างคล่องตัว การชดเชยแสง การปรับ Iso รวมถึง โหมตต่างๆ ก็ เพียงหมุน เป็นแป้นที่ช่างภาพอาชีพทั่วไปจะชื่นชอบ ก็เพราะ ฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการ ออกช๊อต หลักๆ มีไม่กี่เรื่อง ขอให้หยิบมาแล้ว กดชัตเตอร์ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ อย่างรวดเร็ว ส่วนอารมณ์คลาสิก หรือละเมียดละไม ก็ยังมีให้ในห่วงการพลิกกระจกแสดงภาพ ด้านหลังที่สามารถปรับได้ รอบตัว ยกขึ้นมากเซลฟี่ตัวเอง ปรับลดระดับต่ำสำหรับ เติมความคิดสร้างสรรค์ แบบติดพื้นได้เลย ปัจจุบันกล้องที่ออกมา ถ้าไม่มี WI-FI ส่งภาพ เข้า SMART PHONE ได้ถือว่าตกยุค ทำให้ M 5 สามารถเล่าเรื่องพูดคุยกับคนในโซเชียลได้อย่าง เพลิน จุดเด่นที่ต้องบอกอีกเรื่อง ก็คือ ระบบโฟกัส ที่ M5 จัดมา ถือว่า เร็วจัดจ้าน ผมทดสอบ กับการใส่กับเลนส์ 70-300 L F 4..5-5.6 นั่งบนรถและถ่ายภาพสองข้างทาง ถ่ายเจาะตัวแบบ ที่เปลี่ยนไปมาตลอด โฟกัสเร็วใช้ได้ เม่นยำ ไม่น่าเบื่อกับอาการ งง โฟกัสไม่ได้ ตรงนี้ ถือว่า สอบผ่านในระดับราคานี้ แม้นสภาพแสงจะน้อย ๆ ผมทดสอบภาพนิ่ง เลือกสนามทดสอบ ในการเป็น Body สำรอง แบบดาบปลายปืน เดินเข้าหน้าและใช้ถ่ายบนเครื่องบิน มองยอดเขาหิมาลัย นอกเหนือจากการถ่ายด้วยเลนส์เทเลโฟโต้บนท้องถนน สนามแรกคือการทดสอบเรื่องสีของไฟด์ ในบรรยากาสสภาพแสงน้อยๆ ในห้างสรรพสินค้า ด้วยเลนส์ 10-22 มม อยากรู้ว่า สอบผ่านหรือเปล่า ด้วยเวลาจำกัด ในการซื้อของ และ ยกกล้องขึ้นมาถ่าย เหมือนคนทั่วไปที่ใช้ชีวิตประจำวัน ยกกล้อง ไม่ใช้แฟลช เดินถ่าย กด และเดินไปหยิบสินค้า เปรียบเทียบเวลา ในการทำงาน ในระยะประชิด หมดห่วง ระยะนี้หวั่งผล ได้ เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะต้อง ปรับ โหมดกล้อง ตั้งค่า AW นิด เพื่อเลือกสภาพแสง ให้เหมาะกับ ไฟ จะยิ่งช่วยให้ภาพดูมีสีสัน เพิ่มขึ้น มีมิติในการอธิบายให้รูปมีชีวิตชีวา ในวันที่บินจาก กาฐมาณฑุ ไป โพครา เมืองแห่งเทือกเขาหิมาลัย เนื่องจาก เป็นเครื่องบิน 28 ที่นั่ง ที่มี 2 แถว นำเล็กมาก ผมเก็บกล้อง DSLR ใส่กระเป๋า และมีสมาธิ กับ เจ้า M 5 แบบไม่ต้องขยับจุดสนใจไปที่อื่นนอกจาก มองผ่านกระจกขุ่นๆ ของเครื่องบิน ออกไปยังกลุ่มเทือกเขาหิมาลัย ระยะทางในการบิน ประมาณ 15 นาที อุปสรรค์สำคัญคือเรื่องกระจกข้างหน้าต่าง ที่ต้อง วางตัวเลนส์ให้แนบที่สุดกับ กระจกเครื่องบิน ผมใช้เลนส์ 18-150 มม ที่ติดมากับกล้อง ด้วยเก้าอี้ที่เล็ก และพื้นที่ทำงาน จำกัด 15 นาทีที่ได้พูดคุย กับ M 5 สนุกมากครับ เป็นการเล่าภาพการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด จากเทคโนโลยี ของกล้อง ผมปรับไอเอสโอ เลือกสภาพแสง สูงนิด 400-800 เพื่อให้ได้ ความเร็วชัตเตอร์ที่สูง และ ดันรูรับแสงให้แคบที่สุด เพื่อตัดฟิลเตอร์ กระจกเครื่องบิน ออกให้ได้ ระยะเลนส์ 18-150 มม ถือว่า ครอบคลุมรูปแบบการทำงานแบบ ตัวคนเดียว เดินทางท่องเที่ยวได้เลย เพราะสามารถถ่ายในห้องแคบๆ ได้ มีระยะซูมที่สามารถถ่ายภาพไกลๆ เราสามารถ กำหนดระยะ ในจังหวะของแสง เลือกเน้นจุดที่ต้องการ ตระโกนได้ ลงตัวมาก เว้นวรรค์ กับการถ่ายเป็นคลิปวีดีโอ ในแบบฉบับของ Journalist ลงตัวมากๆ หลังจากตรวสอบไฟด์ ของ M5 ผมยอมรับว่า เป็นเพื่อน รุ่นน้องที่ใช้ไปซื้อ ขนม หรือ โอเลี้ยงได้ อย่างสะบายใจ นั่นหมายถือ หวังผลแห่งงานได้ ยิ่งถ้าเราต้องการคนรุ่นใหม่ ที่มีความคล่องตัว สูง ๆ วิ่งเร็วๆ ก็ต้องเรียก มาใช้งานแน่นอน เก็บตก ผมได้ นำ canon M5 มาเปิดสนามถ่ายภาพใต้น้ำ ที่ Vanadio The profsessional underwater studio ของ สวนน้ำ vana nava หัวหิน ถ่ายผ่านกระจก หนา 1นิ้ว ร่วมกับ ใช้ไฟสตูติโอ เหมือนกล้องโปรทั่วไป จังหวะ โฟกัส เร็วไม่แตกต่าง ความรู้สึก เม่นยำ โอเคร์ ในทุกฟีเจอร์ มีในเรื่องคุณภาพไฟด์ ที่ อาจจะดันไม่สุดเท่ากล้องโปรในระดับราคาอันแตกต่างมาก ๆ แต่ถ้าราคาที่ แคนนอนเปิดมาให้คนไทยได้ จับจ้องคบหามาเป็นเพื่อนร่วมทาง ราคานี้ถือว่า คุ้มค่ามาก